หน้าหลัก > ข่าวและประกาศ > 'กินเห็ด'ต้องรู้-ต้องให้สมดุล เหมาะสม-ไม่มากไป'ให้คุณ'
'กินเห็ด'ต้องรู้-ต้องให้สมดุล เหมาะสม-ไม่มากไป'ให้คุณ'
'กินเห็ด'ต้องรู้-ต้องให้สมดุล เหมาะสม-ไม่มากไป'ให้คุณ'
09 Sep, 2019 / By fffarmshop
Images/Blog/nKm0TPqK-เมนูเห็ด-01.jpg

เป็นอีกเทรนด์ “สุขภาพ” ที่มาแรง สำหรับการกิน “เห็ด” ซึ่งมีการแปรรูปมากมาย จนตอนนี้ไม่ว่าไปที่ไหนก็มักจะเห็นสินค้าที่ทำจากเห็ด มีเห็ดเป็นส่วนประกอบ แต่การกินเห็ดที่จะให้ผลดี นอกจากต้องทานอย่างสมดุลแล้ว ผู้ที่มีโรคประจำตัวก็ต้องมีความระมัดระวังในเรื่องการกินเห็ดบางชนิดมากเกินไป เพราะอาจก่อให้เกิดผลร้ายมากกว่าดี

กับเรื่องนี้ ทาง นพ.ไพศิษฐ์ ตระกูลก้องสมุท แพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ขยายความให้ความเข้าใจว่า ตอนนี้คนไทยหันมากินเห็ดมากขึ้น ด้วยเริ่มใส่ใจสุขภาพ ทำให้คนเริ่มค้นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะการสร้างภูมิคุ้มกัน เพราะไม่มีใครอยากป่วย อาหารอย่างเช่นเห็ดเลยได้รับความนิยม

“เห็ด” ทางการแพทย์มีอยู่ไม่กี่ชนิดที่มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา ซึ่งมีผลวิจัยทั้งในประเทศญี่ปุ่น เกาหลี อเมริกา และอังกฤษ การกินเห็ดถือว่ามีประโยชน์ ช่วยบำรุงร่างกาย โดยเฉพาะเห็ดที่มีผลการวิจัยยืนยัน ซึ่งเห็ดทางการแพทย์ที่มีการระบุถึง และผ่านการวิจัย คือ เห็ดชิตาเกะ หรือเห็ดหอม, ไมตาเกะ ราชาแห่งเห็ด, เห็ดหลินจือ, ยามาบูชิตาเกะ, มัตสึทาเกะ รวมถึงถั่งเช่า เหล่านี้มีผลการวิจัยยืนยันในต่างประเทศ และได้รับความนิยมอย่างมาก

สารประกอบสำคัญของเห็ด มีโพลีแซคคาไรด์ และมีไกลโคโปรตีน รวมถึงโปรตีนโอไกลแคน จากการวิจัยสารเหล่านี้จะมีส่วนในการ กระตุ้นภูมิต้านทาน โดยงานวิจัยส่วนใหญ่ในเห็ดจะพบว่า ช่วยในการสร้างภูมิต้านทาน เช่น ไมตาเกะ และหลินจือ ช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาวชนิดที่กินเชื้อโรค รวมถึงกระตุ้นเม็ดเลือดขาวที่จะสร้างสารทำลายเชื้อโรค

มีผลวิจัยว่า เห็ดชิตาเกะกับไมตาเกะ เมื่อกินคู่กันจะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี ซึ่งดีกว่าการกินเห็ดชนิดเดียว จะเหมาะกับคนที่ภูมิคุ้มกันไม่ดี ไม่สบายบ่อย ๆ ขณะที่เห็ดยามาบูชิตาเกะ ก็มีชื่อเสียงมากในกลุ่มคนที่ต้องการสร้างภูมิต้านทาน

และยังมีการวิจัยพบว่า สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือด และความดันโลหิต ซึ่งมีงานวิจัยในเห็ดไมตาเกะ, หลินจือ และถั่งเช่า โดยล่าสุดมีผลวิจัยที่ญี่ปุ่นซึ่งได้รับการยอมรับจากหลายประเทศทั่วโลกเกี่ยวกับสารสกัดไมซีเลียม ที่บางคนรู้จักในนามรากของเห็ด หรือบางคนก็เรียกว่าเส้นใยเห็ด โดยเป็นเห็ดสายพันธุ์เฉพาะที่ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทาน

การกินน้ำเห็ด สิ่งที่ผู้ซื้อสินค้าต้องดูคือผู้ผลิตใช้เห็ดที่มีผลวิจัยรับรองหรือไม่ ทั้งนี้ การใช้ความร้อนอาจทำให้คุณค่าบางอย่างในเห็ดน้อยลง ปัจจุบันผู้ประกอบการจึงพยายามใช้วิธีแปรรูปอื่น ๆ เข้ามาช่วย เช่นกระบวนการพัฒนาการผลิตผ่านไอน้ำ

สำหรับคนที่มีอาการป่วยแล้วอยากกินผลิตภัณฑ์จากเห็ด ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ก่อน หรือเห็ดอะไรที่ยังไม่เป็นที่รู้จักก่อนกินควรจะต้องปรึกษาแพทย์ เนื่องจากเห็ดบางชนิดมีสารที่เป็นพิษต่อร่างกายได้

การกินเห็ดแบบสด เด็กสามารถกินได้ แต่ถ้าเป็นเห็ดสกัด เด็ก ๆ ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกิน แต่สามารถกินได้ในคนที่อายุ 30 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ แต่ละคนมีความต้องการสารที่อยู่ในเห็ดแตกต่างกัน ถ้าได้มีการศึกษาข้อมูลทางการแพทย์ หรือปรึกษาแพทย์ก่อน ก็จะช่วยให้ไม่เกิดอันตรายต่อร่างกายได้

งานวิจัยประโยชน์ของเห็ด ส่วนใหญ่จะมาจากญี่ปุ่น และจีน ขณะที่ในไทยงานวิจัยเหล่านี้ยังมีค่อนข้างน้อย ทั้งที่บ้านเรามีเห็ดหลากหลายสายพันธุ์ ถ้าไทยมีการวิจัยเรื่องเห็ดมากขึ้น จะทำให้เราไม่ต้องซื้อเห็ดที่มีราคาแพงจากต่างประเทศมาก ขณะเดียวกันเราสามารถส่งออกเห็ดจากไทยไปขายต่างประเทศได้ ซึ่งที่ญี่ปุ่น เมืองซัปโปโร เป็นศูนย์กลางในการผลิตสินค้าเกี่ยวกับเห็ดที่ส่งออกไปทั่วโลก ยิ่งงานวิจัยได้รับการรับรองจากประเทศอื่น ๆ ก็ยิ่งทำให้การส่งออกมีมากขึ้น สร้างรายได้ให้กับญี่ปุ่นได้ไม่น้อย

...“เห็ด” ในอนาคตในไทยจะกินกันมากเพิ่มขึ้นอีกแน่ เนื่องจากคนเริ่มหันมาสนใจการกินอาหารเพื่อป้องกันโรคมากขึ้น ซึ่งเห็ดบางชนิดที่มีผลวิจัยรับรองจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตได้ และกับกระแสการนิยมกินเห็ด นอกจากคุณค่าด้านสุขภาพแล้ว หากมีการวิจัยและพัฒนาจริงจังมากขึ้นในไทย ก็จะยิ่งดีในวงกว้างมากขึ้น

 

ศราวุธ ดีหมื่นไวย์

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.dailynews.co.th/article/593196

Like
ความคิดเห็น (0)
ก่อนหน้า 1 ถัดไป
ร้านค้าออนไลน์
© 2006-2024
Vevo Systems Co., Ltd.